วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

นานาทัศนะ กับ ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ วิกฤติการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจจะมีผลกระทบต่อ "วิกฤติสังคม"

ในปี พ.ศ. 2552 นั้น วิกฤติการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจจะมีผลกระทบต่อ "วิกฤติสังคม" เกิดขึ้น ถ้าประชาชนประสบวิกฤติเศรษฐกิจมากอาจเกิดปัญหาสังคมตามมา ปัญหาปากท้องอาจเกิดการปล้นจี้อาชญากรรมได้

รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหา

1. ต้องสร้างการเมืองให้มีเสถียรภาพ ต้องไม่เป็นตัวขยายความขัดแย้งทางสังคม ไม่ขยายความขัดแย้งทางการเมือง หรือแบ่งฝ่ายอย่าขยายผล

2. มีการดำเนินการตามหลักนิติธรรม ให้เกิดความเชื่อถือโปร่งใส ด้านกฎหมายต้องไม่เลือกปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายของ ประเทศ

3.รัฐบาลต้องเร่งรัดการแก้ไข "ปัญหาเรื่องปากท้อง" ที่เกิดจากผลกระทบของวิกฤติโลกโดยเฉพาะเรื่องการว่างงาน ต้องใช้เงินในงบประมาณและนอกงบประมาณมากระตุ้นเศรษฐกิจและรองรับการสร้างงาน ให้ได้ ต้องดูแลปัญหาเกษตรกรอย่างใกล้ชิด คาดว่าปี 2552 ราคาพืชผลทางการเกษตรจะตกต่ำ เกษตรกรจะรับความเดือดร้อนมาก รัฐบาลจะต้องทำงานหนักให้คนจนเมืองและชนบทมีความหวัง

ต้องดูแลทุกภาคส่วนให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ต้องขจัดปัญหาเร่งด่วนให้รักษาขีดความสามารถการแข่งขัน ถ้าปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้รัฐบาลก็จะผ่านไปได้ ถ้าผ่านไม่ได้ รัฐบาลคงต้องเลือกยุบสภา

ปัญหาด้านการเมืองอาจมีการก่อกวนจากกลุ่มต่อต้าน "คนเสื้อแดง" ที่ออกมาประกาศว่าจะชุมนุมจนกว่าจะมีการยุบสภา รัฐบาลจะต้องไม่ตกหลุมพราง โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีต้องไม่จมปลักอยู่กับปัญหานี้ ควรมอบหมายหน้าที่ให้กับรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งดูแลทางการเมืองโดยตรงและให้ นายกรัฐมนตรีมีเวลาคิดแก้ไขปัญหาทางด้านอื่นๆ

กรณีที่พรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งป้อมต่อต้านนี้ อาจมีความเป็นไปได้ที่อดีตนายกฯทักษิณต้องการให้เกิดการยุบสภาให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะกลับมาสนับสนุนให้กลุ่มเหล่านี้กลับเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลใหม่

ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นโอกาสของ "พรรคประชาธิปัตย์" ที่ ว่างเว้นการเป็นรัฐบาลมาถึง 8 ปี ต้องใช้ประโยชน์จากการเป็นรัฐบาลและแก้ไขปัญหาให้ได้ มิฉะนั้นจะเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพรรค โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนรุ่นใหม่ถ้าต้องล้มเหลวกับการ เป็นนายกฯคงลำบาก จึงต้องพยายามเพิ่มศักยภาพและเพิ่มความหวังให้ประชาชน

ส่วนตัวแปรทางการเมืองที่จะทำให้พลิกผันนั้นอยู่ที่ "พรรคร่วมรัฐบาล" ที่ อาจจะมีปัญหาในการปฏิบัติงานอาจจะปฏิบัติอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน จะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และในฐานะนายกฯนายอภิสิทธิ์มีประวัติของความซื่อสัตย์สุจริตเป็นนักการเมือง ที่สะอาด จะเกิดความสงสัยว่าจะสามารถดูแลให้คนอื่นทำงานด้วยความสุจริตได้มากน้อย เพียงใด

http://www.innnews.co.th/sombat.php?nid=150889