วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

รัฐบาลไม่ล้มภายในเร็วๆนี้แน่! ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์

วันนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน วิกฤตการเมืองกระทบการลงทุน ถ้าไม่มีความสงบทางการเมืองก็ไม่มีทางพัฒนาเศรษฐกิจได้ ที่สำคัญขณะนี้ประเทศไหนที่พึ่งการส่งออก โดนกระทบกระเทือนเศรษฐกิจหมด วิกฤตเศรษฐกิจซ้ำเติม ทั่วโลก

ทั้งนี้รัฐบาลเรามีปัญหาทางการเมือง อยากแนะนำอีกครั้งให้ทำงานให้หนัก วันธรรมดาพบปะภาคส่วนต่างๆ สอบถามปัญหา วันหยุดออกต่างจังหวัดรับฟังปัญหาเกษตรกร ถ้าให้รัฐมนตรีรับผิดชอบคนละ 2 จังหวัด มี 36 คน สัปดาห์หนึ่งจะไปได้70 จังหวัด ทำอย่างนี้ทุกอาทิตย์

และภาพที่เห็นคือนายกฯ จะลงพื้นที่ แต่พอจะออกต่างจังหวัดก็เจอตีนตบ ไปไหนไม่ได้ แล้วประเทศนี้จะเดินไปอย่างไร วันนี้ไม่มีสมองเหลือคิดแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะแค่การที่รัฐบาลเอาตัวรอดเป็นรัฐบาลต่อได้ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว

ปัญหาใหญ่ของการพัฒนาทุกประเทศคือคุณภาพประชากร รัฐบาลพูดถึงแต่ระบบการศึกษาเรียนฟรี15 ปี แต่ไม่เคยพูดเรื่องคุณภาพการศึกษาจะทำอย่างไร การเรียนฟรีมันเป็นทางอ้อม เรื่องใหญ่คือคุณภาพคนสอน และระบบการเรียนการสอน ที่จะให้เด็กรู้จักคิด วิเคราะห์อย่างนี้ยังไม่เห็นชัด

นอกจากนี้ปัญหาที่สำคัญคือปัญหาเกษตรกร ที่มี39 เปอร์เซ็นต์ ในอนาคตคนจะออกจากภาคเกษตรมาก เพราะถ้าประเทศไหนมีคนอยู่ในภาคเกษตรมากนั่นคือประเทศล้มเหลวเรื่องการศึกษา

ทั้งนี้ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เคยบอกห้าปีแก้ปัญหาความยากได้จน เขากล้าหาญมากที่ประกาศอย่างนั้น แม้แต่อำเภออาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ที่ลงไปทำโมเดลแก้จนก็ยังจนเหมือนเดิม วันนี้รัฐจะเอาที่ดินกรมธนารักษ์ให้เช่าไร่ละ10 บาท ถามว่ามีที่ดินแล้วเลิกจนหรือไม่ ก็ยังจนเหมือนเดิม มีสินเชื่ออย่างธกส.มาสิบกว่าปีก็ยังจนอยู่

วิธีแก้จนมีอยู่ 2 อย่างคือทำให้เกษตรกรมีอาชีพมั่นคง ไม่มีหนี้ ก็เลิกจน แต่จะทำอย่างไร เรื่องการเกษตรพูดง่ายรัฐบาลชอบพูดเรื่องทำชลประทาน เพื่อให้มีน้ำ แต่ขณะนี้ใช้ชลประทานระบบเดิมก็มีข้าวประมาณ 10 ล้านตัน แต่ข้าวยังราคาถูก ก็ไม่ได้กำไร แม้จะมีผลผลิตมากขึ้นหากไม่มีการจัดการเกษตรกรก็ยังจนเหมือนเดิม

การแก้ไขคือ ที่ดิน ราคาผลผลิต เราไม่มีอะไรเป็นวาระแห่งชาติระยะ เช่น การผลิตพลังงานทดแทน เพื่อลดการสั่งเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ จึงจะแก้ปัญหาได้ หากรัฐยังไม่เข้าแก้ปัญหาเชิงรุก รัฐบาลโฆษณาบอกหากผ่านเงินกู้คนจะไม่ตกงาน แต่ไม่บอกอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้รัฐบาลต้องไปดูเรื่องการส่งออกแต่ละเซคเตอร์ แต่ต้องใส่ใจ ทำงานให้หนัก

รัฐบาลต้องรู้จักคิดโครงการที่ทำให้เอกชนเข้ามาทำเงินสมทบให้มาก เช่น การสร้างโรงพยาบาลทั่วประเทศในวงเงินแสนล้านบาท ทำงบผูกพันสิบปี ให้เอกชนมาลงทุนแทนรัฐผ่อนส่งปีละหมื่นล้าน แต่รัฐไม่ทำโครงการลักษณะอย่างนี้ จะทำให้เกิดการสร้างงาน หรือการกระตุ้นให้ซื้อบ้าน ให้เอกชนลงทุนร้อยเปอร์เซ็นต์ วิธีคิดคือรัฐใส่เงินลงน้อย ให้เอกชนลงทุนมาก ถึงจะเห็นผล

รัฐบาลอภิสิทธิ์ มีศักยภาพทางการเมือง รับมือได้ แต่ทางเศรษฐกิจจะต้องทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นผลกระทบทางการเมืองได้ รัฐบาลมีโอกาสแก้ไขปัญหา แต่ต้องเข้าใจปัญหา โดยเฉพาะปัญหาความยากจน รัฐต้องให้ความสนใจ 6เดือนรัฐยังไม่หยิบการแก้ปัญหายากจนชัดเจน ประชาชนยังเดียวดาย

แต่อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่ารัฐบาลไม่ล้มภายในเร็วๆ นี้ และปีนี้คงไม่เห็นการเปลี่ยนรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านยังอ่อนแอ หัวหน้าฝ่ายค้านตัวจริงยังอยู่ต่างประเทศ ทำให้รัฐบาลมีโอกาส แต่ต้องแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมชัดเจน

นานาทัศนะ 16 มิถุนายน 2552 11:31:15 http://www.innnews.co.th/sombat.php?nid=176347