วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2552

ข้อมูลเบื้องต้น กองทุนทองคำ ตัวอย่าง กองทุน K-Gold

.....กองทุนทองคำ ก็มีหลักการณ์เหมือนกองทุนอื่นทั่วๆไป ซึ่งผลตอบแทนจะมาจาก กำไรจากการซื้อ และขายหน่วยลงทุน อาจแตกต่างกันไปในเรื่องค่าธรรมเนียมค่ะ

สำหรับกองทุน K-Gold
….. กองทุนก็จะนำเงินที่เราลงทุน ไปลงทุนต่อในกองทุนทองคำที่ต่างประเทศอีกที โดย K-Gold จะนำเงินเราไปลงทุนในกองทุนที่สิงคโปร์ ชือว่า กองทุน SPDR gold ซึ่งเป็นกองทุนใหญ่ยักษ์ที่ลงทุนในทองคำแท่งจริงๆ ซึ่ง ต้องไปเทรดกันที่เมกา ไม่มีการเทรดที่สิงคโปร์ ดูเวปไซต์เค้าได้ที่ http://www.spdrgoldshares.com/sites/sg/ ซึ่งในเวปไซต์นี้ เราก็จะเห็นปริมาณการถือครองทองคำแท่งของกองทุน เป็นรายวัน (หน่วยเป็นตัน) รวมถึงราคา ราคาปิดตลาด ทั้งราคาปิดตลาดสิงคโปร์ และ ราคาปิดตลาด NewYork

ก่อนจะเล่าต่อไป ก็อยากให้รู้จักคำต่างๆที่เกี่ยวข้อง (ที่จำเป็น)ก่อน
1. หน่วยลงทุน: อาจอุปมาได้กับบาททองคำเวลาเราไปซื้อทองจริง แต่ค่าของบาททองคำ ไม่ได้เท่ากับค่าของหน่วยลงทุนนะคะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด
2. NAV (มูลค่าหน่วยลงทุน) : มูลค่าหน่วย นี่ก็เทียบได้กับราคาทองที่เราซื้อ แต่ตัวเลขเหมือนราคาหุ้นมากกว่า วันที่เปิดกองทุนคือ 10 บาทค่ะ (ราคา par) โดย NAV จะเคลื่อนไหวทุกวัน ตามราคาทองในตลาดโลก หากวันนี้ราคาขึ้น NAV ก็ขึ้นด้วย โดยธนาคารจะประกาศNAV (ของสองวันก่อนหน้า)ทุกวันในเวปไซต์ และสาขาธนาคาร

โดย NAV จะถูกคำนวณจากตัวแปรดังต่อไปนี้ค่ะ
-ราคา ทองในตลาดโลก ณ.เวลาปิดตลาดสิงคโปร์ (5.00 น. Singapore / หรือ 4.00 น. ที่เมืองไทย) อันนี้สำหรับ K-Gold เท่านั้นนะคะ (เปรียบเทียบกับ TMB Gold จะยึดราคาตลาดโลกเหมือนกัน ที่เวลาปิดตลาด New York ก็ประมาณกลางคืนบ้านเราค่ะ ไม่แน่ใจกี่โมง)
-อัตราแลกเปลี่ยน......... กองทุน K-Gold ได้ทำ Hedge ค่าเงินไว้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ 100% เพื่อป้องกันความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงค่าเงินก็มีผลบ้างเหมือนกันไม่ใช่ไม่มีเลย(เปรียบ เทียบกับ TMB Gold ไม่ได้มีการทำป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไว้เลย ดังนั้นราตาจะวิ่งตามตลาดโลกล้วนๆ) อย่างไรก็ตามผู้จัดการกองทุนได้ทำการป้องกันค่าเงินไว้ในหลายๆระดับราคา เราไม่มีทางรู้(เจ้าหน้าที่แบงค์ก็ไม่ทราบ) ว่าแต่ละวัน เค้าใช้อัตราแลกเปลี่ยนใดในการคำนวณ รวมทั้งสูตรคำนวณเป็นยังไง อันนี้เราก็ไม่รู้ได้อีกเช่นกัน

3. ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: เปรียบได้กับ ส่วนต่างราคาที่ร้านทองหักเราละกัน เนื่องจากในการซื้อขายของเรา กองทุนต้องมีค่าดำเนินการเหมือนกัน บริษัทหลักทรัพย์ หรือตัวแทน (แบงค์) ก็จะคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อ หรือขาย ประมาณ 0.3% ทุกครั้งที่เราซื้อ - ขาย

ถ้าอยากซื้อ
-. เมื่อเราอยากลงทุนในกองทุนทองคำ เราก็ไปที่แบงค์ แล้วเปิดบัญชีกองทุน และบัญชีออมทรัพย์ ถ้าเรายังไม่มีบัญชีออมทรัพย์) บัญชีออมทรัพย์นี้จะใช้เป็นที่พักเงินเวลาเราสั่งซื้อ หรือสั่งขาย (จริงๆซื้อเป็นเงินสดก็ได้ โดยไปที่แบงค์เหมือนไปฝากเงิน แต่บอกเค้าว่าซื้อกองทุนแทน ... แต่เวลาขายแบงค์จะโอนตังค์เข้ามาที่บัญชีออมทรัพย์ของเราที่เปิด และลงทะเบียนเชื่อมไว้กับบัญชีกองทุน
- ทั้งนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชี แต่เปิดกองทุน K-Gold ต้องมีขึ้นต่ำ 10,000 บาท (เปรียบเที่ยบกับ TMB Gold เปิดขึ้นต่ำ 2000 บาท)
- เงินที่เราจ่าย จะแลกเป็นจำนวนหน่วยลงทุน
ตัวอย่าง สมมติเราจะลงทุน 10,000 บาท ในขณะที่ NAV ของวันนั้น = 9.5 บาท / ค่าธรรมเนียมซื้อ 3% (=30บาท)
ดังนั้น จ่ายตังค์แล้ว เราก็จะได้เป็นหน่วยลงทุนกลับมา = 10,000 /[9.5+(9.5x0.3%] = 1049.4736 หน่วย
-เรา ก็จะได้สมุดกองทุนกลับมา พร้อมหมายเลขกองทุนของเรา (ใช้หมายเลขเดียวกันนี้ หากสนใจซื้อกองทุนอื่นๆของเค้าอีก) แต่ยังไม่ทราบหน่วยลงทุน(อีก 2 วันค่อยไปอัพบุคดู ..ทำไม??...อ่านต่อด้านล่างค่ะ)
- ไม่ว่าเราจะไปซื้อตอนกี่โมงก็ตาม กองทุนก็จะใช้ราคาปิดตลาดสิงคโปร์ (4.00น. บ้านเรา) ในวันเดียวกับที่เราไปซื้อ ประกอบกับ อัตราแลกเปลี่ยนวันนั้นๆมาคำนวณมูลค่า NAV ของวันนั้นๆ (แต่เรายังไม่รู้ตัวเลข จนกระทั่งแบงค์จะประกาศในอีกสองวันถัดไป) หมายความว่า แต่ละวัน NAV จะมีราคาเดียวค่ะ
- ??ทำไมต้อง 2 วัน?? ก็เนื่องจาก หากซื้อวันนี้ พร่งนี้กองทุนถึงได้ราคาสรุปมาอีกทีจากเมืองนอก แล้วกองทุนต้องมาคำนวณตามตัวแปรที่บอก จึงได้ NAV ออกมาประกาศในวันทำการถัดไปอีก ก็เลยเป็น 2วัน

วิธีการซื้อ-ขาย ; ที่แบงค์ / ATM / Internet(วิธีนี้ต้องลงทะเบียนกับแบงค์ไว้ก่อน)
ใช้ ATM และ Internet ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมค่ะ
อ้อ เปิดกองทุนตอนแรกต้องไปที่แบงค์นะคะ

เวลาซื้อ จันทร์-ศุกร์ ไม่เกิน 3.30 PM
เวลาขาย จันทร์-ศุกร์ ไม่เกิน 2.30 PMเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดกองทุน(เชคได้ในเวปกสิกร หรือจากหนังสือชี้ชวน)
ขั้นต่ำเปิดกองทุน 10000 บาท (ต่างกับ TMB ของเค้าแค่ 2000 เอง)
ขั้นต่ำซื้อขาย 10000บาท (ต่างกับ TMB ของเค้า 1บาทเองมั๊ง ถ้าจำไม่ผิด)

ข้อดี กองทุนทองคำ
-สะดวกไม่ต้อง ไปที่ร้านเหมาะสำหรับคนไม่มีเวลาอย่างคนทำงานออฟฟิศแบบเรา หรือบ้านไกลร้านทอง
-ซื้อ ขาย ง่าย ผ่าน ATM และ internet ก็ได้
-ราคาไม่โดนกั๊ก วางแผนง่าย (ไม่ต้องคิดเผื่อสมากั๊ก) ได้ราคาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เอาไว้ถ้ามีเวลา จะมาให้ข้อมูลเพิ่มค่ะ
-ปลอดภัย ไม่ต้องหอบเงิน หอบทองไปมา น่าโดนปล้น
-มีเงิน 10000 ก็ซื้อได้ไม่ต้องเก็บตังค์ซื้อทีละแท่ง 5บาททอง จึงเฉลี่ยต้นทุนได้ดีกว่า

ข้อเสีย (เมื่อเทียบกับซื้อที่ร้าน)
-แต่ ละวันมีราคาเดียวเท่านั้น คือราคาปิดตลาด จะซื้อจะขายกี่โมงก็ต้องยึดราคาตอน3.30pm(ซื้อ)/หรือ 2.30(ขาย) ดังนั้นแนะนำให้จับตาดูกราฟตอนไกล้ๆปิดระบบแล้วค่อยตัดสินใจ ทำรายการค่ะ เผื่อระหว่างวันผันผวนมาก เช้าสูง เย็นต่ำ หากเราทำรายการตั้งแต่เช้า จากกำไร ก็อาจขาดทุนได้ เพราะราคาเปลี่ยนไปมา
-ไม่ทราบราคาทันที ต้องรอ1-2 วัน จึงประกาศ(เต่ก็ดูราคา spot realtime ได้ในเวป สามารถคาดการณ์แล้วสั่งซื้อขายได้ถ้าพอใจ)
-ขาย แล้วกว่าจะได้ตังค์ ตั้ง 5 วัน (ประกาศราคา 2 วัน + อีก 3วันขั้นตอนของธนาคาร) ดังนั้นต้องมีสภาพคล่องเผื่อสำหรับ ซื้อขาย ในอีก 5วันถัดไป ถ้าได้ราคาดี ดังนั้นจึงน่าจะเหมาะกับคนเล่นยาวค่ะ เล่นสั้นลำบากหน่อย โดยเฉพาะช่วงตลาดผันผวนที่ต้องเข้าไวออกไว
-ต้องคำนวณ NAV เอาเองคร่าวๆ ว่าขาดทุนหรือกำไร แล้วตัดสินใจ
-ซื้อขาย ได้แค่วันจันทร์-ศุกร์ ตามเวลาที่บอก แถมยังมีวันหยุดบางวันเพิ่มเติม (ประกาศให้ทราบตั้งแต่แรกเป็นปฏิทิน)

*ควรระวังเรื่องเวลาการซื้อขาย แต่ละช่องทางกำหนดเวลาปิดระบบไม่เหมือนกัน อย่าเผลอค่ะ
*ข้อแนะนำ ทำรายการทางเนตก็ดีเหมือนกันค่ะ ทำรายการทิ้งไว้ ยังไม่ถึงเวลาปิดระบบก็เข้าไปแก้ไขได้ เผื่อเปลี่ยนใจค่ะ
*ซื้อขายทางโทรศัพท์ เค้าให้กดจุดทศนิยม เราไม่ต้องกด . นะคะ ให้กดตัวเลขต่อกันไปเลย เช่น จะซื้อ 40000.50บาท ให้กด 4000050 ไปเลยค่ะ

….. ตอนนี้คิดออกเท่านี้ ไว้นึกอะไรได้เพิ่มจะมาเพิ่มเติมให้นะคะ ใครอยากเพิ่มเติม หรือแก้ไข อะไรในกระทู้นี้ ก็ยินดี และขอบคุณค่ะ……โชคดีค่ะ


เสริมด้วยข้อมูลดีๆ ง่ายๆ จากคุณ i-tim ค่ะ(ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ )
การซื้อขาย K-Gold ถ้านั่งเล็งแนวทางกันชัดเจนแล้ว ก็มีช่องทางง่ายๆ ให้ซื้อขายกันสะดวกๆเลยค่ะ คือ

1. สาขาธนาคารกสิกรไทย
2. Call Center 02-888-8888
3. สมัคร K-Cyber Invest เพื่อทำการซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต เข้า www.kasikornasset.com
4. ATM ของ KBank ก็ยังซื้อได้นะคะ
5. ยังนึกไม่ออก ไว้บอกทีหลัง

เรื่องการตรวจสอบ NAV หรือ Balance check ก็ง่ายๆ คือ
1.ใช้น้อง PUM (เครื่องปรับสมุดเงินฝาก) ที่ K-Lobby ได้เลย
2.เว็บ www.kasikornasset.com
3.หน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจทั่วไป เช่น กรุงเทพธุรกิจ (อ่านเจออยู่เล่มเดียว 555)

ง่ายและสบายแบบนี้ รับรองว่าถ้าเล็งแนวทางไหนไว้ ไม่พลาดแน่นอนค่ะ (ยกเว้นวันที่ระบบแบงค์ล่ม 555)

http://www.goldtraders.or.th/webboard/index.php?PHPSESSID=be539bbc4b05041581fa8d513ba09825&topic=6501.0

ปล. การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาให้ดีก่อนลงทุน