วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2552

ทองคำกับกองทุนรวม

การลงทุนในทองคำสามารถทำได้ใน 3 รูปแบบด้วยกัน คือ
- การลงทุนในทองคำโดยตรง
- การลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เป็นเหมืองทองคำ
- การลงทุนในทองคำผ่านรูปแบบของกองทุน
ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ล่าสุดของการลงทุนในทองคำซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้นมาบนโลกได้ ประมาณ 2 ปีเท่านั้น

แม้การลงทุนในทองคำอาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคน ไทย แต่การลงทุนในทองคำผ่านรูปแบบของกองทุนรวมนั้น เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย เกี่ยวกับเรื่องนี้ "โชติกา สวนานนท์" กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย ได้อธิบายให้ฟังในงานเสวนาเรื่อง "ทองคำกับกองทุนรวม" ที่จัดขึ้นโดยบลจ.ทหารไทย ให้ฟังว่า "กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์(TMB Gold Fund)" ที่จะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2548 นี้ เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่จะนำเงินทั้งหมด 100% ที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนให้ผู้ลงทุนในประเทศไทย เพื่อไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน StreetTRACKS Gold Trust ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ทั้งนี้เงินลงทุนทั้งหมดของกองทุน StreetTRACKS Gold Trust ลงทุนอยู่ในทองคำแท่ง 99.99% ทั้งหมด โดยมีธนาคาร HSBC Bank USA, N.A.(HSBC) เป็นผู้เก็บรักษาทองคำของกองทุนไว้

" หน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ จึงเป็นกระดาษที่มีทองคำแท่งอยู่ข้างหลังทั้งจำนวน 100% เป็นทางเลือกในการลงทุนในทองคำแท่งที่ใกล้ตัวที่สุด นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังไม่ต้องห่วงเรื่องสภาพคล่องในการซื้อขายอีกด้วย เพราะกองทุน StreetTRACKS Gold Trust เป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท ในขณะที่กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ มีขนาดเพียง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,200 ล้านบาทเท่านั้น"

เนื่องจากกอง ทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ นำเงินไปลงทุนในกองทุน StreetTRACKS Gold Trust ซึ่งลงทุนในทองคำแท่ง 100% ดังนั้น ผลตอบแทนของกองทุนจะเกาะไปกับราคาทองในตลาดโลก ผลตอบแทนของกองทุนจึงขึ้นกับ "ราคาทองคำในตลาดโลก" และ "ค่าเงินบาท" เป็น 2 ปัจจัยที่สำคัญ

ด้าน "อัลเบิร์ต แอล.เอช. เช็ง" กรรมการผู้อำนวยการสภาทองคำโลก หรือ เวิลด์ โกลด์ เคาน์ซิล มองแนวโน้มราคาทองคำโลกกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของตลาดกระทิงได้เพียง 2-3 ปีเท่านั้น หลังจากที่ราคาทองคำอยู่ในช่วงตลาดหมีมานานกว่า 20 ปี และแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกอีก 2-3 ปีข้างหน้า ยังเป็นบวกอยู่ ซึ่งเป็นผลจาก 2 ส่วนสำคัญ คือปริมาณความต้องการบริโภคทองคำในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย เพิ่มขึ้นปีละ 3% ทั้งในส่วนของความต้องการทองคำในแง่ของเครื่องประดับ ,ความต้องการทองคำในอุตสาหกรรม รวมถึงความต้องการลงทุนในทองคำในรูปแบบต่างๆ จะเป็น 3 ปัจจัยที่ผลักดันให้ปริมาณความต้องการบริโภคทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นใน อนาคต

"ในขณะที่ซัพพลายในตลาดทองคำโลกทรงตัวและมีแนวโน้มที่จะลดลง เมื่อซัพพลายของทองคำมีน้อยกว่าปริมาณความต้องการบริโภค ย่อมจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำให้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นได้ ทั้งนี้หากดูปริมาณดีมานด์และซัพพลายของทองคำโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า เฉพาะความต้องการบริโภคทองคำในส่วนของเครื่องประดับอยู่ที่ 2,826 ตันต่อปี ในขณะที่ซัพพลายจากเหมืองทองคำอยู่ที่ 2,312 ตันต่อปีเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค จึงต้องมีซัพพลายจากส่วนอื่นเข้ามาเสริมคือการนำทองเก่ากลับมาหลอมใหม่และ การขายทองออกมาในตลาดทองคำโลกจากธนาคารกลางประเทศต่างๆ เพื่อให้ดีมานด์และซัพพลายมีความสมดุลกัน"

อัลเบิร์ต ยังกล่าวอีกว่า ดัชนีชี้วัดที่สะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำยังดูได้จากสถิติความ สัมพันธ์ระหว่างตลาดดาวโจนส์กับราคาทองคำในตลาดโลกตั้งแต่ปี 2523-2542 หรือเกือบ 18 ปีที่ผ่านมา พบวงจรขึ้นลงของราคาทองกับดัชนีมีความสัมพันธ์ในทิศทางที่ตรงกันข้าม คือถ้าดาวโจนส์ลงราคาทองจะขึ้น แต่ถ้าดาวโจนส์ขึ้นทองจะลง ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงที่ราคาทองกำลังจะขึ้น นอกจากนี้ ตัวชี้วัดอีกตัวหนึ่งก็คือราคาทองคำในรูปสกุลเงินต่างๆ ทุกภูมิภาคทั่วโลกล่าสุด ราคาทองสกุลเงินต่างๆ เริ่มอยู่ในช่วงขาขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ด้านราคาทองคำขณะนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของตลาด ทองคำขาขึ้นซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่าจะกินเวลานานพอสมควร

"ทำไมคนจึง ควรลงทุนในทองคำ อย่างแรกเลยเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เพราะผลตอบแทนของทองคำมีความสัมพันธ์กับตราสารทางการเงินอื่นๆ น้อยมาก เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทั้งยังไม่มีความสัมพันธ์กับสินค้าอุปโภคบริโภค แต่จะมีความผันผวนตามอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น การลงทุนในทองคำจึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเรื่องการกระจายความเสี่ยง และสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุน นอกจากนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ เป็นการรักษาอำนาจซื้อเอาไว้ และข้อสุดท้ายคือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการสะสมความมั่งคั่ง"

นอก จากราคาทองคำในตลาดโลก อีกหนึ่งปัจจัยที่จะเป็นตัวกำหนดผลตอบแทนของทองคำ คือ ค่าเงินบาท เกี่ยวกับเรื่องนี้ "นวพร เรืองสกุล" อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) อธิบายว่า ราคาหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ จะเพิ่มขึ้น ก็ต่อเมื่อราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้น หรือเงินบาทอ่อนค่าลง ถ้าราคาทองสูงขึ้นและเงินบาทอ่อนค่าลงผู้ลงทุนก็จะได้กำไรสองต่อเลย ส่วนค่าเงินบาทนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานะของประเทศไทยเอง สถานะของประเทศอื่น หรือเงินเฟ้อ ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อนั้นถ้าอัตราเงินเฟ้อเราสูงกว่าประเทศคู่ค้าค่าเงิน บาทก็จะอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ถ้าเกิดเมื่อไรก็ตามที่เงินเฟ้อเราน้อยกว่าประเทศคู่ค้าโอกาสที่จะเห็นเงิน บาทแข็งค่าขึ้นก็มี

"ปัจจุบันเงินเฟ้อเราสูงกว่าอเมริกา เพราะฉะนั้น แนวโน้มของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทันที จะมีช่วงเวลาของมัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ถ้ามองจากเงินเฟ้อของประเทศไทยเทียบกับสหรัฐในปัจจุบันแล้ว เงินบาทมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่ามากกว่าแข็งค่า"

จากข้อมูลข้างต้นจะพบ ว่า 2 ปัจจัยที่กำหนดผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำผ่านกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ มีแนวโน้มเป็นบวก เพราะ "ราคาทองคำโลก" ก็มีแนวโน้มสูงขึ้น ในขณะที่ "ค่าเงินบาท" เอง ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงมากกว่าที่จะแข็ง อย่างไรก็ตาม "วีระ ธีระภัทรานนท์" นักจัดรายการวิทยุจากรายการ "เงินทองต้องรู้" กลับมองในมุมที่ต่างออกไปว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบัน จะขึ้นก็ขึ้นไม่มาก จะลงไปก็ลงไม่มาก แต่จะทรงตัวในระดับนี้ต่อไป แต่จากนี้ไปสัก 2-3 ปี ราคาทองคำสามารถที่จะปรับตัวขึ้นไป 10% มีโอกาสเป็นไปได้ แม้ไม่มองทองคำในแง่ของการลงทุน แต่ผู้คนก็มีความจำเป็นต้องมีทองคำไว้ในพอร์ตการลงทุนของตัวเองด้วย 2 เหตุผลด้วยกัน

"เหตุผลแรกคือ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกผลกระทบจากค่าเงินบาททำลายอีกเหมือนเมื่อครั้ง ปี 2527 และ 2540 ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร จึงควรจะต้องมีการเก็บทองเอาไว้ในพอร์ต เพื่อไม่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนผูกติดกับเศรษฐกิจในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่มีการกระจายไปในต่างประเทศในระดับหนึ่ง และเหตุผลที่สองคือ หากคุณมีความจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ การพกพาทองคำแท่งขึ้นเครื่องบินจำนวนมากๆ ก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าคุณลงทุนในกองทุนทองคำก็จะสะดวกเวลาเดินทาง"

เชื่อว่ากองทุนทองคำ จะเชื่อมผู้ลงทุนเข้าสู่การลงทุนในตลาดทองโลกได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น